หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หญิงสาวอิ่มฝันผู้อาบแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง


หญิงสาวอิ่มฝันผู้อาบแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง


 มีคนเคยกล่าวว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหน ที่ไหน ในโลก
 พระจันทร์ที่เรามองก็เป็นดวงเดียวกัน
ฉันเห็นชอบด้วยตามนั้น
 ด้วยแสงที่ฉาบทาให้ทุกหัวใจอ่อนโยนก็มาจากพระจันทร์ดวงเดียว
      แต่จะมีสักกี่ผู้กี่คน ที่จะคิดถึงพระจันทร์ในห้วงคำนึงเดียวกัน
และจะมีสักกี่เวลา ที่พระจันทร์
         จะอาบแสงสวยงามกระจ่างฟ้า เหมือนครั้งก่อนหน้าที่เราเฝ้ามองกับคนที่รู้ใจ
      
           วาระที่หัวใจของคุณร้องขอเพื่อเสพแสงจันทร์
 ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
     อาจด้วยว่า คิดถึงคนรักหรือร่ำสุราเมามายกับมิตรสหาย
หรือเพียงว่ากรายสายตาผ่านๆไป ปะกับแสงจันทร์ด้วยบังเอิญ
     หรือเป็นคำเชื้อเชิญของความเหงา จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
.
นั่นจงรู้ด้วยว่ามีอีกหลายหัวใจ
           ได้เปิดใจอาบแสงจันทร์ไปพร้อมกับคุณ แม้ไม่เห็นแต่รู้สึกได้ด้วยใจ
ว่าหัวใจเราอาบแสงจันทร์ใต้ฟ้าเดียวกัน
เช่นนี้เองจึงถือได้ว่าเป็นสันติภาพทางอารมณ์ที่เราต่างมีร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม

         สันติภาพไม่มีทางบังเกิด หากเรายังละเมิดสิทธิ์ในการถือครองพื้นที่เล็กๆเสียงเล็กๆของผู้อื่น
โดยหยิบยื่นความเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าให้ผู้อื่น
 การอยู่รวมกันบนผืนแผ่นดินเดียวกัน
สังคมเดียวกันอย่างสงบสุขจำเป็นต้องมีพื้นที่ว่างเล็กๆสำหรับบุคคลนั้น
พื้นที่ที่เพียงพอให้เรามองต่างมุมแต่จุดมุ่งหมายเดียวกันดังพระจันทร์ดวงเดียว

       สัมพันธภาพระหว่างคนสองคนขึ้นไป ไม่ว่าจะคบหากันในฐานะใด
ภายใต้ฟ้า ดาวและพระจันทร์ดวงเดียวกัน
จำเป็นต้องมีพื้นที่ว่างเอาไว้เพื่อให้เราได้ใส่ความเป็นตัวตน
ของแต่ละคนผสมผสานเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่งดงาม
ภายใต้ศิลปะที่ไม่มีใครคาดเดาว่าจะออกมารูปแบบใด
ภายใต้งานศิลปะนี้เราให้ชื่อว่า
 "มิตรภาพและสันติสุข"
     ฉันเฝ้ามองพระจันทร์ในวาระกรรมที่แตกต่าง
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพระจันทร์
แม้ฉันเองก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
เปลี่ยนแปลงด้วยวัย ด้วยร่างกาย ด้วยความคิด ด้วยวุฒิภาวะและด้วยอารมณ์
 เชื่อเถิดคนๆเดียวกันสายตาคู่เดียวกัน การมองพระจันทร์ในแต่ละคืนยังแตกต่างกัน
และขัดแย้งกันเองเสมอๆ
แต่ท้ายสุด
เราก็ยอมรับมันด้วยว่า เรามักยอมรับตัวเอง เข้าใจตัวเองมากกว่าเข้าใจผู้อื่น
 เช่นนี้คือความจริงของปุถุชน
          ในค่ำคืนนี้ก็เฉกเช่นกัน หัวใจฉันสะท้อนเสียงแห่งความต้องการภายใน
ให้เปิดเปลือยอารมณ์ห่มด้วยแสงจันทร์เพื่อบรรณาการ
ต่อความต้องการสุนทรียภาพแห่งการเสพศิลป์แห่งผืนฟ้า
 ฟ้าในฤดูร้อน มีมนต์เสน่ห์น่าไหลหลงเนื่องด้วยทั้งดาวและจันทร์อวดแสงแข่งกัน
โดยไร้พันธนาการจากเมฆหมอกใดๆ
  ฉันจึงมักเผลอไผลปล่อยหัวใจให้ลอยล่องท่องไปตามครรลองของห้วงคำนึง
สุดแต่ว่ามันจะพร่ำเพ้อพรรณนาถึงบุคคลใดหรือสิ่งใด
 คล้ายว่าภาพท้องฟ้าดวงดาวและแสงแห่งจันทร์นั้นบรรเลงเพลง
ให้เจ้าความคิดและหัวใจได้เริงระบำอย่างไม่รู้เบื่อ.....
         ภาพที่ปรากฏ ณ ขณะนี้ คุณคงเห็นเพียงหญิงสาวที่ส่งสายตา
เดินทางสานแสงจันทร์ภายใต้มนตรา
ที่สะกดให้เธอสงบนิ่งอยู่ในห้วงเวลานั้นเนิ่นนาน
“ หญิงสาวอิ่มฝันผู้อาบแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง”
ความงดงามที่ปรากฏสะอาดหมดจดเงียบสงบสว่างไสวในความมืดมน
 หากแต่แท้จริงแล้วสิ่งที่คุณไม่อาจมองเห็น
คือความสับสนวกวนในความคิด ความฝัน ความคิด ความขัดแย้ง
 ความคิดถึงและความทุกข์ตรมที่ส่งเสียงร้องระงมวนเวียนรอบๆกายของเธอ
เสียงจากคำถามและการพูดคุยกับตัวเองยังก้องดัง
และบั่นทอนในอารมณ์ที่มืดมนภายใต้ร่างกายที่สว่างไสวด้วยแสงจันทร์
          เพียงคุณเอาใจของคุณวางลงและนั่งลงตรงข้างเธอผู้นั้น
เพื่อสัมผัสถึงความสุข ความเศร้า ความเหงา ความคิดถึงและริ้วรอย
ของความทรงจำที่งดงามแต่เจ็บปวดในยามที่โหยหาวันเวลาก่อนเก่า
และความฝันที่หลายคนทำมันหล่นหายไป
กับกระแสของความเจริญสังคมและค่านิยมที่เปลี่ยนไป
       เธอไม่ได้แตกต่างจากคุณหรอกนะ
พระจันทร์บนฟ้าก็เหมือนกันหลายคนหลงใหลในพระจันทร์และเฝ้าถวิลหาความงามนั้น
ระยะห่างแห่งความไกลทำให้เราหลงใหลในเปลือกที่ฉาบทาหาได้หลงใหลในแก่นแท้
ที่พระจันทร์เป็นเพียงแค่ก้อนหินที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ เหน็บหนาวและมืดมน
      หญิงสาวอิ่มฝันผู้อาบแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง
งดงามตามภาพที่ปรากฏแต่ในหัวใจกับมืดมนสับสน
เพราะแท้จริงแล้วตัวตนของเธอถูกคุกคามด้วยกรอบของสังคมที่ตีค่าเพียงภายนอก
      ปวดร้าวในความนิ่งงัน สันติภาพที่ฉาบทา
ปรากฎเพียงความงดงามซ่อนเร้นไว้ซึ่งการดิ้นรนเพื่อรักษาตัวตนของตนเองอย่างเงียบๆ
ในหัวใจที่มืดมนลงทุกที

 

             ไม่ว่าคุณ จะมองพระจันทร์จากมุมใด พระจันทร์ก็งดงามเหมือนๆกัน
ไม่ว่าคุณจะมองหญิงสาวจากมุมไหน
หญิงสาวอิ่มฝันผู้อาบแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงก็ยังงดงามเหมือนๆกัน
ความจริงก็คือต่อเมื่อคุณเข้าใกล้และละทิ้งไว้ซึ่งอำนาจ
และลองใช้ใจสัมผัส ดู
 ศิลปะจะบังเกิดภายใต้สันติวิถี
สันติภาพมิได้เกิดจากภาวะนิ่งเฉย
หากแต่เกิดจากความเข้าใจ
มองจากภายนอกและชื่นชมกับ
เข้าถึงภายในเพื่อเข้าใจ คุณจะเลือกแบบใด???

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น