วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ของดีมีในศาสนาพุทธ


ของดีมีในศาสนาพุทธ



"ของดีมีในศาสนาพุทธ"
ของดีอันล้ำค่า ผู้มีปัญญาจะหาได้
แต่เฉพาะในศาสนาพุทธนี้เท่านั้น

คนในสมัยก่อนท่านทำอะไรด้วยใจซาบซึ้งถึงสิ่งที่ท่านทำนั้นด้วยใจจริง ไม่เหมือนคนในสมัยหลัง ๆ นี้ คนในสมัยหลัง ๆ นี้ถึงจะทำตามท่านก็จริงแล แต่ทำตามเยี่ยงประเพณี ไม่ได้ทำโดยความจริงใจ ถึงจะมีความรู้และความสามารถพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริงอย่างไร ๆ ก็ไม่ซาบซึ้งถึงความเป็นจริงของท่านอยู่ดี

ท่านเมื่อก่อนนั้น ท่านทำอะไรต้องทำด้วยกาย วาจา และใจอันซาบซึ้งถึงสิ่งที่ทำนั้นด้วยใจจริง ๆ ตัวอย่างเช่น คนในปัจจุบันนี้จะไหว้พระ กราบพระหรืออะไรก็แล้วแต่ ถึงจะไหว้ ๓ หน หรือกราบ ๓ หน คนโดยส่วนมากก็ไหว้ไปกราบไปอย่างนั้นแหละ ไม่มีความหมายอะไร ไหว้ ๓ หน กราบ ๓ หน เพื่อประโยชน์อะไรก็ไม่รู้ เห็นหมู่เพื่อนไหว้และกราบก็ไหว้และกราบไปอย่างนั้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นอีกบางทีเมินหน้าไปดูสิ่งต่าง ๆ แล้วปากก็ยังพูดกับเพื่อนฝูงอีกด้วย อย่างนี้จะเรียกว่าพุทธศาสนาเจริญและเข้าถึงจิตใจของชาวพุทธได้อย่างไร

พวกที่เป็นพระและเป็นครูบาอาจารย์ขอได้มาช่วยกันทำตัวของตนให้เป็นแบบอย่างของคนอื่น แล้วพากันมาสอนเขาเหล่านั้นให้กราบไหว้ให้ถูกพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ สักทีเถอะ พระพุทธศาสนาจะได้เข้าถึงจิตใจของคน แล้วพระพุทธศาสนาจะได้ถาวรสืบต่อไป อย่าให้คนภายนอกเห็นว่าพุทธศาสนาเป็นเรื่องของเด็กๆหาแก่นสารไม่ได้

นอกจากนั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายยังพากันหลงงมงายนับถือเครื่องรางของขลัง ตะกรุด คาถา ผ้ายันต์ ภูตผีปีศาจ เข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นจะบันดาลให้เราได้พ้นภัยอันตราย และให้โชคลาภต่างๆนานา สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เชื่อโดยงมงายนอกพุทธศาสนา เชื่อว่าของเหล่านั้นมีจริง และเชื่อว่าของเหล่านั้นจะบันดาลให้ได้ตามปรารถนาของตน แต่คนเหล่านั้นบางพวกก็ยังเลื่อมใสนับถือพระพุทธศาสนาเป็นสรณะที่พึ่งก็มี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น