วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

บ้านของฉัน

บ้านของฉัน

นมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพอย่างสูง  ท่านคณะกรรมการและท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่าน
                  พ่อเผื่อแผ่ แม่พันผูก  ลูกพูนเพิ่ม ปู่คอยสอน  ย่าคอยเสริม เติมดีให้  ลุงช่วยแนะ ป้าช่วยนำด้วยน้ำใจ  สุขเกินใคร ชื่นเกินเขา  บ้านเราดี  บ้านไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักกายอย่างเดียว  แต่ ยังเป็นสถานที่พักใจอีกด้วย  บ้านดิฉัน มีคุณย่า คุณแม่ ดิฉัน มีคุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ ดิฉัน  และน้องชายชีวิตเปรียบได้กับการเดินทางที่ยาวไกล  คุณย่าคือผู้สูงวัยที่ ได้เรียนรู้เรื่องราวมามากมาย  ย่อมตกผลึกทางความคิด  ชีวิตมากด้วยทักษะ ประสบการณ์ เป็นเสาหลักของบ้าน  สอนลูกหลานด้วยข้อมูลที่เท็จจริงอย่างถ่องแท้
                   คุณพ่อของดิฉัน  ท่านรับผิดชอบต่อหน้าที่  งานหลวงไม่เคยขาด  งานราษฎร์ไม่เคยเว้น  งานจำเป็นไม่เสียหาย  งาน ทั่วไป ไม่เสียผล  คุณแม่ของดิฉันท่านปฏิบัติหน้าที่ของท่านได้เป็นอย่างดี  เป็นใน คัมภีร์  เล่มใหญ่  ที่ให้คำปรึกษาแก่พ่อ  เป็นไม้เท้ายันกานแก่คุณ ย่า  เป็นแสงประทีปส่องสว่างให้แก่ลูก  เป็นร่มไม้ที่ให้ร่มเงาแก่ สังคม  แม่เก่งงานวงใน  พ่อเก่งงานวงนอก  ท่านมีศิลปะในการครองรักครองเรือน ด้วยการครองคุณธรรมยามใดที่ลูกทำผิดท่านก็จะว่ากล่าวเพื่อแก้ไขมีเพื่อแก้ เค้น  ยามใดที่ลูกทำถูกต้องท่านก็จะชมว่าดีมากไม่ชมว่าเก่งมาก  เพราะถ้าชม ว่าเก่งมากจะทำให้ลูกลืมตัว  แต่ถ้าชมว่าดีมากจะทำให้ลูกลืมตัว  แต่ถ้าชม ว่าดีมากจะทำให้ลูกรู้จักระวังตัวดิฉันและน้อง ได้รับการอบรมให้มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ  ท่านพุทธทาส ภิกขุ  กล่าวว่าโลกรอดได้เพราะความกตัญญู  ผู้ใดหมั่นศึกษา ผู้นั้นชื่อว่านั่งใกล้นักปราชญ์  ผู้ใดเชื่อฟังพ่อแม่  ผู้นั้นชื่อว่าได้นั่งใกล้คุณธรรมทั้งปวง  ดิฉันคิดว่าคำกล่าวนี้ถูกต้องค่ะ  เพราะดิฉันรักคุณพ่อคุณแม่  ไม่กล้าทำในสิ่งที่ไม่ดีกลัวท่านจะเสียใจ  ดิฉันเชื่อแน่นอนว่าความกตัญญูเป็นมารดาของคุณทั้งปวง คุณย่าสอนว่าบ้านจะงดงามได้ไม่จำเป็นต้องสวยหรูหรา แต่คนในล้านต้องมีคุณธรรมดังต่อไปนี้
                    จริงใจต่อกัน  จริงใจต่ออุดมการณ์  ดังคำกล่าวที่ว่า  ทองแท้ย่อมไม่แพ้ ไฟหลอม  รู้จักข่มใจตนเราข่มใจหรือใจมาข่มเรา  ถ้าเราข่มความรู้สึก เราก็อยู่เย็นเป็นสุข แต่ถ้าความรู้สึกมาข่มเรา เราก็อยู่ร้อนนอนทุกข์  ผู้ที่รู้จักข่มใจจะทำให้ใจดำเป็นใจดี  ใจผีเป็นใจ พระมีความอดทน  ความอดทนมีรสขมขื่นแต่มีผลหวานชื่นในภายหลังสละอารมณ์อันขุ่นมัวเพราะใจว่าง  เป็นบุญ  ใจวุ่นเป็นบาปใจหยาบทุกข์เข็ญ ใจเย็นสุขศรี  บ้านของดิฉันเป็นโรงงานผลิตน้ำตา ไม่ใช่หรอกค่ะ
                     ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านคะ  พ่อแม่เปรียบเสมือนต้นฉบับ  คำสั่งสอน เปรียบเสมือนเครื่องถ่ายเอกสาร   ลูกเปรียบเสมือนสำเนาของต้นฉบับโดยมีบ้านปลูกฝังคุณธรรม  บ้านที่ไร้พระ ธรรมก็ไม่ต่างอะไรกับอิฐปูนที่กองไว้รกแผ่นดิน  ไม่มีคุณค่าที่ชวนถวิล อาวรณ์ถึง  บ้านของดิฉันวันนี้มีความสุข  เพราะ ทุกคนในบ้านมีพระธรรมค่อยกล่อมเกลาจิตใจ  ต่อให้อยู่ในทิพยสถานวิมานใด  ก็ ไม่ปลอดภัยเท่ากับอยู่ที่บ้านเราหรอกคะ กลับบ้านเรารักรออยู่เคียงคู่บ้าน  ประตูบานน้อย ๆ คอยเปิดกว้างหนีจากทุกข์คุกคามตามปลายทางกลับสู่กลางอ้อมกอดที่ปลอดภัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น