วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ผีเสื้อให้ข้อคิด

ผีเสื้อให้ข้อคิด



        กาลครั้งหนึ่งนานแสนนานมาแล้วชายคนหนึ่งพบกับรังใหมตัวอ่อนของผีเสื้อ เขาจึงเฝ้าดูการเจริญเติบโตของมัน จนกระทั่งเห็นรอยปริแตกของรังไหม เขาจึงนั้งแล้วเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของตัวอ่อนผีเสื้อนานอยู่หลายชั่วโมง เขาเห็นมันพยายามดิ้นรนออกจากช่องเล็กๆของรังไหมให้ได้ แต่เมื่อมันไม่สำเร็จเจ้าตัวน้อยจึงหยุดการเคลื่อนไหวเหมือนกับยอมรับว่าไม่อาจฝืนทำอะไรไปมากกว่านั้นได้อีกแล้ว

        เพื่อต้องการช่วยตัวอ่อนเขาจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดที่รังไหมจนช่องกว่างพอที่ตัวอ่อนจะสามารถออกมาอย่างง่ายดายตัวอ่อนผีเสื้อน้อยจึงออกมาเผชิญโลกภายนอกในสภาพร่างกายที่บวมกลมที่ตรงข้ามกับปีกที่มีขนาดเล็กนิดเดียว
       
       เขาเฝ้าจับตามองตัวอ่อนด้วยความหวังว่าในไม่ช้าปีกของมันจะขยายใหญ่ขึ้นและแข็งแรงพอที่จะพยุงร่างกายของมันได้เมื่อถึงเวลาอันควร แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ผีเสื้อตัวน้อยนิดต้องเดินและคลานด้วยร่างอันบวมกลมและปีกอันแห้งเล็กที่ไม่มีโอกาสจะบินภายใต้การดูแลของชายผู้หวังดี สิ่งที่ชายคนนี้ไม่เข้าใจเลยก็คือธรรมชาติได้กำหนดมาแล้วว่าตัวอ่อนจะออกไปเผชิญโลกภายนอกได้ก็ต่อเมือของเหลวในร่างกายลดน้อยลงจนลำตัวมีขนาดสมดุลเท่ากับปีกและลำตัวต้องมีขนาดเล็กพอเท่านั้นจึงจะสามารถรอดออกจากรังใหมที่มีช่องขนาดเล็กได้และถ้าตัวอ่อนพยายามดิ้นรนเองจนสำเร็จมันก็จะเจริญเติบโตเป็นผีเสื้อที่สามารถโบยบินเผชิญโลกกว้างได้อย่างอิสระแท้จริงและการมีชีวิตโดยไม่มีอุปสรรคใดๆมีแต่จะทำให้เราพิการและไม่แข็งแรง การฟันฝ่าอุปสรรคต่างหากละที่เป็นหัวใจการดำเนินชีวิต

       เราควรภูมิใจที่เราต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคได้จนถึงทุกวันนี้และหวังว่าเราแข็งแกร่งพอดั่งผีเสื้อที่สามารถโบยบินไปได้อย่างอิสระเสรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น