ต้องมองในแง่ดีซิ จะได้มีความสุข

ต้องมองในแง่ดีซิ จะได้มีความสุข

เรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ของทุกเช้า

ภรรยาจะแอบมองดูเพื่อนบ้านจากชั้นสองที่ของบ้าน

แล้ววิ่งกลับลงมาเล่าให้สามีฟัง

เพื่อนบ้านซักผ้าไม่เป็นเลยรึไงดูสิ โค ตะ ระ สกปรกเลยอะ

ไม่รู้เค้าใช้ผงซักฟอกอะไรดูสิดู

หรือไม่รู้วิธีซักกันแน่

สามีจึงตอบว่า ช่างหัวเผือกหัวมันเถอะ อย่าไปสนใจเขาเลย เราซักผ้าของเราสะอาดก็แล้วกัน

แต่ภรรยาก็ยังคงไปแอบดูเพื่อนบ้านเหมือนเดิม และวิ่งกลับมารายงานสามีทุกเช้า

ดูสิดูสิ เสื้อผ้าของเขาสกปรกอีกแล้ว

ต่อมาวันนึง ภรรยาวิ่งลงมารายงานสามีด้วยความ อึ้ง ทึ่ง และตกใจ

ไม่เข้าใจเลยจริง วันนี้มันเกิดภัยพิบัติอะไรเนี่ย เสื้อผ้าของเพื่อนบ้านถึงขาวสะอาดเวอร์อะไรขนาดนั้น

อยากรู้จริงๆเขาใช้ผงซักฟอกขั้นเทพยี่ห้ออะไร หรือใช้สกิลเลเวลอะไรในการซักผ้า

สามีหัวเราะปานโลกแตกพร้อมพูดว่า นี่ผม โค ตะ ระ รำคาญคุณเธอเหลือเกิน

เมื่อเช้าผมแหกตาตื่นแต่เช้ามืด แล้วไปเช็ดหน้าต่างที่เธอชอบไปแอบดู ก็เท่านั้นเอง

ก็แค่กระจกมันสกปรกน่ะ สิ่งที่เธอมองออกไปก็เลยมีแต่ความสกปรก

เรื่องราวของสามีภรรยาคู่นี้สอนให้รู้ว่า

มนุษย์เราชอบมองคนอื่นผ่านจิตใจของตัวเราออกไป

เมื่อจิตใจเราสะอาดเราก็จะเห็นแต่ความดีรอบๆตัว

แต่ถ้าจิตใจเราสกปรก

เราก็จะเห็นแต่สิ่งโสมมเห็นแต่สิ่งไม่ดีรอบตัว

เราต้องเข้าใจว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราเห็น

มันเกิดขึ้นจากจิตใจของเรา

และจะต้องหาทางฝึกจิตใจเราให้สะอาดบริสุทธิ์

ถ้าเราเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี จิตใจก็จะไม่สงบ

เราก็จะกลุ้มอกกลุ้มใจ มีแต่ความทุก

ดังนั้นให้เราหัดมองในแง่ดีคิดแต่สิ่งที่ดี จิตใจก็จะเบิกบานมีแต่ความสุข